Sapiens
เมื่อเวลา
500 ล้านปีที่แล้วสสารพลังงานเวลาและพื้นที่ได้รวมตัวกัน เกิดเป็นเอกภพ
เรื่องราวเกี่ยวกับลักษณะพื้นฐานของเอกภพของเรานี้ เรียกว่า ฟิสิกส์
สสารและพลังงานเริ่มรวมตัวกันเป็นโครงสร้างพลังงานเชิงซ้อนเรียกว่า อะตอม ซึ่งรวมตัวกันเป็น
โมเลกุล เรื่องราวของปฏิกิริยาของอะตอมโมเลกุล
เรียกว่า เคมี 3800 ล้านปีที่แล้ว
ทุกอย่างรวมกันเรื่องราวของโมเลกุลได้รวมตัวกันก่อรูปเป็นโครงสร้างพิเศษและซับซ้อน
เรียกว่า สิ่งมีชีวิต เรื่องราวของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า ชีววิทยา
เมื่อ
70000 ปีที่แล้วสิ่งมีชีวิตในสปีชีสร์ เฮอร์โมเซเปี่ยน
เริ่มก่อรูปโครงสร้างสังคมที่ประณีตมากขึ้น เรียกว่า วัฒนธรรม ภายหลังพัฒนาการทางวัฒนธรรมของมนุษย์ทั้งหลาย
มีชื่อเรียกว่า ประวัติศาสตร์ ต่อมาคือ วิทยาศาสตร์
สาเหตุที่มนุษย์เราแตกต่างจากกสัตว์อื่นๆยังไงทำไมเราถึงโดดเด่นในด้านต่างๆ?
ถ้าเกิดว่าให้เทียบในระดับตัวบุคคล
ระดับปัจเจกชนระหว่างเรา กับสุนัข กับสุกร หรือลิงชิมแปญซี
ถ้าเกิดคุณเอามนุษย์คนนึง
(เปรียบเทียบเป็นคุณเอง) กับชิมแปนซี ไปปล่อยในเกาะล้างกลางทะเลแล้วต่อสู้เพื่อจะเอาชีวิตรอดคิดว่าใครจะเอาตัวรอดได้ดีกว่ากัน
แน่นนอน ต้องเป็นลิงด้วยด้านร่างกายการหาอาหาร เขาเลยบอกว่า
ความแตกต่างจริงๆระหว่างมนุษย์กับสัตว์อื่นๆไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลแต่อยู่ที่กลุ่มบุคคล
มนุษย์ครองโลกได้เพราะว่า มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียว ที่ร่วมมือกันอย่างยืดหยุ่น
และเป็นจำนวนมากเทียบเทียบเหมือนสัตว์คำตอบคือไม่
เพราะสัตว์เหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นการร่วมมือของพวกมันค่อนข้างจะตายตัวอย่างมาก
ยกตัวอย่าง ผึ่งจะมีวิธีการทำงานในรวงผึ้งทั้งรังมีแค่แบบเดี่ยว
ค่อยค่าจะโซลิดมากๆ ถ้ามีอันตรายใหม่ๆ
ผึ้งไม่สามารถสร้างระบบสังคมขึ้นมาได้ภายในคืนเดียว
เช่นไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตของผึ่งราชินีได้ แล้วตั้งเป็นสาธารณรัฐ ให้จากประชาชนผึ้งเป็นเผด็จการผึ้ง
ซึ่งพวกสัตว์อื่นๆก็เช่นกัน ต่อให้การทำงานจะยืดหยุ่นมากกกว่านี้ก็เถอะ
แต่ก็สามารถทำได้ภายในกลุ่มเล็กๆเพราะการร่วมมือกันของลิงชิมแปนซีขึ้นอยู่กับการรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้นหมายความว่า
ถ้าผมกับคุณจะร่วมงานกันผมและคุณต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี
รู้ว่าคุณเป็นชิมแปนซีแบบไหน นิสัยดีมั้ย เชื่อใจได้รึป่าว
มนุษย์
homo
sapiens เป็นสัตว์ประเภทเดียวที่สามารถมีคุณสมบัติสองประเภทนี้ คือ
สามารถร่วมมือกันได้อย่างยืดหยุ่น บวกกับ เป็นจำนวนมาก เปรียบเทียบกัน 1-1
ผมกับชิมแปนซี ชิมแปนซีก็อาจจะเก่งกว่า
10-10 ชิมแปนซีก็อาจจะเก่งกว่าต่อมาเป็น ร้อยคนกับร้อยตัว พันคนกับพันตัว หมื่นคนกับหมื่นตัว
แสนคนกับแสนตัว มนุษย์เก่งกว่ามากครับ เพราะฉะนั้น เขาจึงบอกว่า
มนุษย์จึงสามารถรวมตัวได้มากโดยไม่เกิดความโกลาหลเกิดขึ้นเพราะเรามีความร่วมมือที่สลับซับซ้อนมีเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่ปรากฎในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น ปิรมิต
หรือการบินไปดวงจันทร์ไม่ได้เกิดจากความสามารถระดับตัวบุคคลแต่เป็นความสามารถในการร่วมมืออย่างยืดหยุ่นและเป็นจำนวนมาก
และนี่คือคุณสมบัติข้อที่ 1
เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกันอย่างยืดหยุ่นสร้างระบบขึ้นมาที่ทำให้คนจำนวนมากสามารถทำงานได้อย่างสลับซับซ้อนสร้างเครือข่ายที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและที่สำคัญ
เราต้องคิดเอาไว้เสมอว่ามนุษย์เราไม่เคยประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์โลกหรือประวัติศาสตร์จักวาลจากการทำงานเพียงคนเดียว!
ต่อจากนี้ถ้าเราต้องทำงานในกลุ่มหรือบริษัทให้คิดสะว่า นี่คือพื้นฐานสัญชาติญาณบรรพบุรุษที่ทำอย่างนี้กันมาอย่างยาวนาน
0 ความคิดเห็น